tag:blogger.com,1999:blog-26130197971404171662024-03-13T23:50:14.061+07:00วิชานวัตกรรมและเทคโนโลยีการศึกษานางสาวสมพร ทำประเสริฐhttp://www.blogger.com/profile/07116300437793994781noreply@blogger.comBlogger10125tag:blogger.com,1999:blog-2613019797140417166.post-14289255878023208192011-02-17T19:57:00.001+07:002011-02-21T13:00:05.405+07:00LCA นวัตกรรมใหม่ล่าสุดระดับโลก<h2 class="title">LCA นวัตกรรมใหม่ล่าสุดระดับโลก</h2><div class="content" style="text-align: left;"><span style="color: sienna;"><strong>LCA นวัตกรรมใหม่ล่าสุดระดับโลก</strong> <br />
LCA....La Clare Antiage มหัศจรรย์ความงามแห่งยุคสมัย เพียงหนึ่งหยดก็สดใส <br />
"LCA หนึ่งหยดก็สดใส"เพียงหลอดเดียวก็เห็นผล<br />
LCAนวัตกรรมใหม่ล่าสุด...ระดับโลก<br />
<br />
คุณสมบัติ<br />
LCA ช่วยฟื้นฟูคอลลาเจนใต้ผิวหนัง & ส่งเสริมการทำงานของเซลล์<br />
ซ่อมแซมเซลล์ที่เสื่อมสภาพ ช่วยขบวนการแบ่งเซลล์ที่ใต้ผิวหนัง<br />
LCA ช่วยลดริ้วรอย เหี่ยวย่น บริเวณหน้าผาก หางตา ใต้ตา<br />
ส่งเสริมการทำงาน ในการสังเคราะห์โปรตีน<br />
LCAให้ความชุ่มชื้นและความกระจ่างใสของใบหน้าด้วยวิตามินซีบริสุทธิ์ สามารถแก้ปัญหาความหมองคล้ำและจุดด่างดำที่อยู่ลึกให้เลือนหายได้<br />
สามารถซึมผ่านใบหน้าถึง 16 ชั้น ของผิวหนังถึง และเซลล์ของผิวสามารถนำไปใช้ได้ทันที เพราะสกัดจากธรรมชาติ ใบหน้ากระชับ เต่งตึง ผุดผ่อง มีชีวิตชีวา สดใส</span></div><div class="content" style="border-bottom: medium none; border-left: medium none; border-right: medium none; border-top: medium none; text-align: left;"><span style="color: sienna;">ใน Human Placenta เป็นการสกัดเอาสารอาหารที่อยู่ในพลาเซนต้าที่มีประโยชน์มากกว่า 8,000 ชนิด ออกมานำออกมาเลี้ยงไว้ในหลอดสูญญากาศ เทคโนโลยีที่ใช้ในการสกัด LCA ได้รับรางวัลโนเบล จากประเทศสวิสเซอร์แลนด์ <br />
<br />
สําหรับการเจริญเติบโตของเซลล์ อยู่มากกว่า 8,000 ชนิด ด้วยเทคโนโลยีลิขสิทธิ์ที่ทันสมัยที่สุดของโลก ทะเบียนสิทธิบัตรเลขที่ 20410096974.0 และการสกัดด้วย ความเย็นจัด และนาโนเทคโนโลยีทำให้สามารถสกัดสารสำคัญต่างๆ เช่น nucleic acid,Hyaluronic acid,epidermal growth factor,natural collagen นอกจากนี้ ยังได้พัฒนาเทคโนโลยีจนสามารถสกัด pigment inhiditing factor ซึ่งสามารถช่วยแก้ไขปัญหาสีผิดปกติ ของผิวพรรณ ซึ่งถือเป็นการพัฒนาครั้งแรกของโลกที่เกิดผลิตภัณฑ์ชนิดใหม่ เพื่อการดูแลผิวพรรณ<br />
<br />
ประสิทธิภาพของ LCA<br />
<br />
1.ช่วยซ่อมแซมผิวหน้าที่ขาดการบำรุง ด้วยสารที่บำรุงผิวหน้าเปรียบเสมือนอาหารของผิวหน้ากว่า 8,000 ชนิด <br />
<br />
2.ช่วยลดรอยดำ รอยแดง ที่เกิดจากสิว จนหายขาดได้ภายในเวลาอันรวดเร็ว (เริ่มเห็นชัด สัปดาห์ที่ 2)<br />
<br />
3.ช่วยทำให้ผิวหน้าที่เคยเกิดสิวแล้วเป็นหลุม ไม่เรียบ ให้กลับมาเรียบเนียนได้ดังเดิม ทั้งนี้ขึ้นกับความลึกตื้นของหลุมนั้น หากลึกมาก ก็จะค่อยๆตื้นขึ้น (เริ่มเห็นชัดเมื่อผ่านไป 5-6 สัปดาห์ จากประสบการณ์ หากใช้ร่วมกับ LCA Placentaria จะเห็นผลไวและชัดขึ้น)<br />
<br />
4.ช่วยทำให้รูขุมขนที่กว้างแคบลงอย่างเห็นได้ชัด ทำให้ใบหน้าดูเรียบเนียน (เริ่มเห็นผลชัดขึ้นหลังจากใช้ไปสัปดาห์ที่ 2)<br />
<br />
5.ลดปัญหาผิวหน้ามัน เพราะ LCA สามารถควบคุมความมันของผิวหน้าได้ หรือ ลดการเกิดสิวได้ (เริ่มเห็นผลชัดเมื่อผ่านไปแค่ 1 สัปดาห์)<br />
<br />
6.สำหรับผู้ที่ไม่มีปัญหาเรื่องผิวหน้า LCA จะเป็นยาช่วยบำรุงให้ผิวหน้าดูอ่อนนุ่ม อ่อนวัย กระจ่างใสลดอายุได้ราว 15ปี (เห็นผลชัด เมื่อสัปดาห์ที่ 2 จะรุ้สึกว่าหน้าสว่างขึ้น)<br />
<br />
7.สำหรับคนที่เป็นสิวอยู่ก็สามารถใช้ได้ LCA จะช่วยลดอาการอักเสบและทำให้ยุบลงอย่างรวดเร็ว (เมื่อทาบริเวณหัวสิว จะทำให้สิวยุบและแห้งในเวลา 2-3 วัน)<br />
<br />
8.หากผู้ใช้มีใบหน้าที่ขาวอยู่แล้ว LCA จะเข้าไปผลัดเซลล์ผิวใหม่ให้ดูขาวอมชมพู หน้าสว่างกระจ่างใสขึ้น(เห็นผลชัดเมื่อสัปดาห์ที่ 2)<br />
<br />
9.เมื่อเริ่มใช้ จะรู้สึกหน้านุ่มน่าสัมผัส และดูเรียบเนียนขึ้นอย่างรวดเร็ว (เห็นผลชัดเจนใน 3-7วัน)<br />
<br />
หมายเหตุ : ประสิทธิภาพที่เกิดขึ้น อาจเกิดประสิทธิภาพแตกต่างหรือใกล้เคียงกัน ขึ้นอยู่กับลักษณะของผิวหน้า และชนิดของปัญหา เช่น แผลเป็น รอยหลุมสิว ฝ้า รอยแดง รอยดำ ว่ามีปัญหามากหรือน้อยเป็นต้น</span></div><div class="content" style="border-bottom: medium none; border-left: medium none; border-right: medium none; border-top: medium none; text-align: left;"><br />
</div><div class="content" style="border-bottom: medium none; border-left: medium none; border-right: medium none; border-top: medium none; text-align: left;"><br />
</div><div class="content" style="border-bottom: medium none; border-left: medium none; border-right: medium none; border-top: medium none; text-align: left;"><span class="imgcenter"><img alt="" src="http://files.myopera.com/lcadreamteam/blog/PDVD_003.jpg" /></span></div><div class="content" style="text-align: center;"><br />
</div><div class="content" style="text-align: left;"><span class="imgcenter">แหล่งที่มา : <a href="http://my.opera.com/lcadreamteam/blog/show.dml/2571075">http://my.opera.com/lcadreamteam/blog/show.dml/2571075</a></span></div>นางสาวสมพร ทำประเสริฐhttp://www.blogger.com/profile/07116300437793994781noreply@blogger.com0tag:blogger.com,1999:blog-2613019797140417166.post-7140509702893570162011-02-17T19:55:00.000+07:002011-02-17T19:55:06.685+07:00"เซกเวย์" นวัตกรรมใหม่ล่าสุดแทนรถยนต์<div align="center"><span style="color: blue; font-size: medium;"><b>นักประดิษฐ์อเมริกันสร้าง "เซกเวย์" นวัตกรรมใหม่ล่าสุดแทนรถยนต์</b> </span></div><span lang="th"><span style="font-size: medium;"> </span> </span> <span lang="th">เศรษฐีนักประดิษฐ์นายดีน คาเมน นักประดิษฐ์ชาวอเมริกันสุดเจ๋ง คิดค้นนวัตกรรมใหม่ล่าสุด เป็นยานพาหนะรูปแบบใหม่ ที่เรียกขานกันว่า เซกเวย์ ฮิวแมน ทรานส์พอร์ตเตอร์ (Segway Human Tranporter) ซึ่งคาดว่าจะเข้ามาแทนที่รถยนต์ในอนาคต อันจะทำให้เกิดการปฏิวัติด้านการคมนาคมในเมืองหลวงครั้งใหญ่ และจะเป็นนวัตกรรมสำคัญยิ่งกว่าอินเตอร์เน็ต ที่เคยปฏิวัติระบบการสื่อสารของชาวโลกมาก่อนหน้านี้ </span><br />
<span style="font-size: medium;"> </span><span lang="th">นายคาเมน ซึ่งซุ่มคิดค้นยานพาหนะในอนาคต มานานนับ 10 ปีและใช้เงินไปกว่า 4,500 ล้านบาท ได้ประดิษฐ์นวัตกรรมด้านยานยนต์ใหม่ล่าสุดนี้ โดยมีรูปทรงคล้ายคลึงกับเครื่องตัดหญ้า ที่ติดตั้งเครื่องยนต์โรตารี่ผสมผสานกับสกู๊ตเตอร์ สามารถเคลื่อนที่เดินหน้า ถอยหลัง เลี้ยวซ้าย-ขวา หมุนตัวและหยุดโดยไม่ต้องพึ่งพาเครื่องยนต์ เกียร์ พวงมาลัย และเบรก โดยอาศัยแหล่งกำเนิดพลังงานจากกระแสไฟฟ้าจากแบตเตอรี่ จึงไม่ก่อให้เกิดมลพิษทางอากาศเหมือนกับควันพิษจากรถยนต์</span><br />
วงการผู้เชี่ยวชาญด้านสุขภาพสหรัฐฯ ได้พากันแสดงความห่วงใย เมื่อเศรษฐีนักประดิษฐ์ชาวสหรัฐฯ ได้เปิดตัวรถแบบใหม่ อวดว่าจะกลายเป็น "เท้าวิเศษ" ของคนเราต่อไป เพราะสามารถจะขี่ซอกซอน เข้าตรอกเข้าซอยไปไหนต่อไหน ภายในเมืองถึงกันได้หมดอย่างสะดวก<span lang="th">สบาย</span> ด้วยเกรงว่า คนเราจะพากันเลิกเดินเสีย การเดินถือได้ว่าเป็นการเคลื่อนไหวที่มีประโยชน์ ทำได้ทุกเวลาและทุกสถานที่ <br />
<span style="font-size: medium;"> </span>ผู้อำนวยการโครงการป้องกันโรคหัวใจของโรงพยาบาลฮาร์ดฟอร์ดในสหรัฐฯ ผู้มีความเห็นต่อต้านคนหนึ่ง กล่าวว่า "เราพยายามยุให้คนหันไปใช้บันไดแทนลิฟต์ หรือใช้เดินแทนการนั่งรถกันอยู่ เราห่วงว่าการที่คนเดินเหินกันน้อยลง จะทำให้คนพากันอ้วนกันหมด" เขาชี้ว่า "โทษอันแรกของความอ้วน ก็คือเป็นเหตุให้ข้อเข่า สะโพกและเท้าเสื่อม ซึ่งจะป้องกันได้ก็ด้วยการเคลื่อนไหวร่างกายมากๆ เท่านั้น"<br />
<div align="center"><img border="0" height="422" src="http://www.rmutphysics.com/charud/howstuffwork/howstuff2/segway/segway16.jpg" width="250" /></div><div align="center"><br />
</div><div align="left">แหล่งที่มา : <a href="http://www.rmutphysics.com/charud/howstuffwork/howstuff2/segway/index.htm">http://www.rmutphysics.com/charud/howstuffwork/howstuff2/segway/index.htm</a></div>นางสาวสมพร ทำประเสริฐhttp://www.blogger.com/profile/07116300437793994781noreply@blogger.com0tag:blogger.com,1999:blog-2613019797140417166.post-35799146206921282972011-02-17T19:51:00.003+07:002011-02-21T13:03:42.072+07:00Mesotherpy นวัตกรรมใหม่ทางการแพทย์เพื่อความงาม<div id="threadtitle"><h1>Mesotherpy นวัตกรรมใหม่ทางการแพทย์เพื่อความงาม</h1></div><div class="t_msgfontfix"><table cellpadding="0" cellspacing="0"><tbody>
<tr><td class="t_msgfont" id="postmessage_2250"><span style="font-size: large;"><span style="color: teal;">Mesotherpy นวัตกรรมใหม่ทางการแพทย์เพื่อความงามโดยไม่ต้องพึ่งศัลยกรรม</span></span>โดย นพ.ธาดา เปี่ยมพงศ์สานต์ <br />
<br />
<span id="attach_1936" onmouseover="showMenu(this.id, 0, 1)" style="display: none; position: absolute;"></span> <br />
<strong><span style="font-size: medium;">Mesotherapy คืออะไร?</span></strong><br />
<br />
Mesotherapy คือ นวัตกรรมการเสริมความงามทางการแพทย์ล่าสุด โดยไม่ต้องอาศัยการผ่าตัด เป็นเทคนิคการใช้ยาฉีด โดยการประยุกต์ใช้สารที่ไม่เป็นอันตรายต่อร่างกาย หลักการทำงานของ Mesotherapy คือ การฉีดสาร อาหารเข้าสู่ใต้ผิวโดยตรง ในปริมาณที่น้อย โดยการทำติดต่อกันหลายครั้ง เพื่อกระตุ้นการทำงานของระบบการหมุนเวียนต่างๆ ของร่างกาย เช่น ระบบน้ำเหลือง และระบบภูมิคุ้มกัน ทำให้การทำงานของเซลล์ผิวบริเวณนั้นๆ มีประสิทธิภาพมากขึ้น และวิธีนี้ยังสามารถแก้ไขข้อบกพร่องของสรีระ และสัดส่วนของร่างกายเฉพาะที่ <br />
<br />
Mesotherapy เป็นวิธีการที่ปลอดภัย และมีประสิทธิภาพในการกำจัดเซลล์ลูไลท์ การลดน้ำหนัก การรักษาผมร่วง และการทำให้ใบหน้าและลำคอที่สดใส กระชับและเต่งตึง Mesotherapy เป็นวิธีที่ไม่เจ็บปวด ไม่ต้องเสียเวลาภายหลังการรักษา ไม่มีการใช้ผ้าพันแผลหรือสเตย์ และไม่มีความจำเป็นต้องใช้ยาสลบ หลังการรักษาด้วย Mesotherapy ผู้เข้ารับการบริการ สามารถดำเนินชีวิตประจำวันได้ตามปกติ <br />
<br />
Mesotherapy ประกอบด้วยการฉีดส่วนผสมของวิตามิน กรดอะมิโน และยาชนิดต่างๆ ที่ถูกจัดทำขึ้นเฉพาะราย ลงบนใต้ผิวหนังลึกเพียงไม่กี่มิลลิเมตร ตรงบริเวณที่มีปัญหา <br />
<br />
การรักษาด้วย Mesotherapy<br />
<br />
การลดน้ำหนัก <br />
<br />
การทำงานของ Mesotherapy คือ การทำให้ระบบการทำงานของเซลล์ไขมันเปลี่ยนแปลง โดยฉีดสารเพื่อไปกีดขวางการสะสมของไขมัน และสลายไขมันที่สะสมไว้ ผู้เข้ารับการบริการ สามารถกำหนดบริเวณที่ต้องการได้ด้วยตัวเอง โดยสามารถทำตรงบริเวณที่เป็นปัญหา การรักษาจะมีประสิทธิภาพดียิ่งขึ้น หากผู้เข้ารับการบริการมีการประเมินผลของการโภชนาการ ควบคู่ไปกับการควบคุมสารอาหารที่บริโภค รวมถึงการออกกำลังกายที่ถูกลักษณะอย่างสม่ำเสมอ<br />
<br />
โดยทั่วไป หลังจากได้รับการรักษาด้วย Mesotherapy เป็นระยะเวลาประมาณ 3 เดือนขึ้นไป ผู้เข้ารับการบริการจะรู้สึกถึงความเปลี่ยนแปลงที่ดีขึ้น ของคุณภาพของผิว ความหย่อนยานของผิวที่ลดลง น้ำหนักที่ลดลงประมาณ 4 ถึง 5 กิ<span class="t_tag" href="tag.php?name=%E0%B9%82%E0%B8%A5" onclick="tagshow(event)">โล</span>กรัม หรือ<span class="t_tag" href="tag.php?name=%E0%B8%82%E0%B8%99" onclick="tagshow(event)">ขน</span>าดของเสื้อผ้าที่ลดลงประมาณ 1 ถึง 2 ขนาด <br />
<br />
การกำจัดเซลลูไลท์ <br />
<br />
เซลลูไลท์มีผลกระทบต่อผู้หญิงตั้งแต่อายุ 20 ปีขึ้นไปเป็นส่วนใหญ่ สาเหตุเกิดมาจากการกระจายตัวของไขมันที่ไม่สม่ำเสมอ ทำให้เกิดส่วนเกินของไขมันที่เกินออกมาอย่างผิดปกติ การเริ่มอ่อนแอของเนื้อเยื่อใต้ผิวหนัง การคั่งของน้ำเหลือง และภาวะความไม่สมดุลของระดับฮอร์โมนในร่างกาย<br />
<br />
เซลลูไลท์ถูกแบ่งออกเป็น 4 ระยะ ขึ้นอยู่กับลักษณะของเซลลูไลท์ ซึ่งมีลักษณะตั้ง นอน หรือบิด แม้ว่าเซลลูไลท์เป็นต้นเหตุของสัดส่วนที่ไม่ต้องการ แต่เซลลูไลท์ไม่ได้เกิดจากการมีน้ำหนักส่วนเกิน การรักษาด้วย Mesotherapy คือการฉีดสารสกัดจากถั่วเหลืองและวิตามินชนิดต่างๆ โดยสารเหล่านี้ จะปรับปรุงระบบการไหลเวียน ทำให้เนื้อเยื่อใต้ผิวหนังแข็งแรงขึ้น และละลายไขมันส่วนเกิน <br />
<br />
การกำหนดรูปร่าง <br />
<br />
Mesotherapy สามารถกำหนดรูปร่างของสัดส่วนของร่างกาย เช่น หน้าท้อง ใต้ท้องแขน และต้นขา ได้โดยการฉีดวิตามิน และกรดอะมิโน เข้าสู่ผิวหนังเพื่อกระชับผิวหนังที่หย่อนยาน ในขณะเดียวกัน การฉีดสารอื่นๆ สามารถกำจัดไขมัน ฟื้นฟู และซ่อมแซมผิวพรรณให้คงดูเยาว์วัย และได้สัดส่วนตามความต้องการ <br />
<br />
การปลูกผม/ การรักษาผมบางและผมร่วง <br />
<br />
ผมบาง หรือผมร่วง มีผลกระทบต่อทั้งผู้ชาย และผู้หญิงในปัจจุบัน ผมร่วงเกิดจากระบบต่างๆ ของร่างกายที่เสื่อมประสิทธิภาพ ความไม่สมดุลของการบริโภคที่ถูกหลักโภชนาการ และส่วนเกินของฮอร์โมนที่เรียกว่า Dihydrotestosterone (DHT)<br />
<br />
Mesotherapy สามารถแก้ปัญหาผมร่วง ผมบาง ด้วยการฉีดวิตามินที่จำเป็นต่อการปลูกสร้างเซลล์ผมใหม่ เพื่อกระตุ้นระบบของร่างกาย ทำให้ผมขึ้นมาใหม่อย่างเป็นธรรมชาติ การขึ้นใหม่ของผมจะเริ่มขึ้นสัปดาห์ต่อมาหลังการรักษาครั้งแรก หลังจากนั้นประมาณ 6 เดือน เส้นผมจะขึ้นมาเต็มบริเวณอย่างเป็นธรรมชาติ <br />
<br />
การกระชับใบหน้า และลำคอ หรือการทำให้หน้าใส <br />
<br />
ความมีอายุ ความหย่อนยาน ริ้วรอย จุดด่างดำ ฝ้า กระ และรอยตีนกาบนผิวหนัง ทั้งบริเวณผิวหน้า ลำคอ และหนังตา เกิดจากการสะสมของไขมัน การสูญเสียความยืดหยุ่นของผิวหนัง และการโดนทำลายของผิวพรรณอันเนื่องมาจากอนุมูลอิสระ Mesotherapy แก้ปัญหาเหล่านี้ได้โดยแพทย์จะฉีดส่วนผสมของสารต้านอนุมูลอิสระ วิตามิน และกรดอะมิโน เข้าไปในใต้ชั้นผิวหนัง เพื่อเป็นการเพิ่มประสิทธิภาพของเซลล์ผิวโดยตรง ทำให้จุดด่างดำจางลงเมื่อได้รับการรักษาอย่างต่อเนื่อง<br />
<br />
Mesotherapy สามารถกำจัดไขมันที่อยู่ใต้คาง กำจัดผิวที่โดนทำลายจากอนุมูลอิสระ และกระชับผิวที่หย่อนยาน ผลที่ได้คือใบหน้าที่ขาวใสและกระชับขึ้น เปลือกตา และลำคอที่กระชับขึ้น หลังการรักษา ผู้เข้ารับการบริการควรหลีกเลี่ยงแสงแดด และดูแลเอาใจใส่ผิวหน้ามากขึ้น เพื่อลดโอกาสที่รอยด่างดำจะกลับคืนมา <br />
<br />
การรักษาแผลเป็นชนิดเป็นหลุม <br />
<br />
Mesotherapy กระตุ้นเซลล์เพื่อเร่งการสร้างใยคอลลาเจนใหม่ เสริมผิวบริเวณหลุมให้เต็ม โดยไม่ต้องเติมสารใยคอลลาเจนเทียม หรือการใช้เลเซอร์ ซึ่งบางรายอาจเกิดปัญหาแทรกซ้อนได้ <br />
<br />
การฉีด Mesotherapy แบ่งออกเป็น 2 วิธี<br />
1. การฉีดด้วยมือ<br />
2. การฉีดด้วยเครื่องยิง<br />
<br />
การฉีดด้วยมือ <br />
<br />
แบ่งออกตามลักษณะการฉีดดังนี้ <br />
<br />
การฉีดสารลงบนผิวหนังประมาณ 2-4 จุด ภายในระยะเวลาเพียง 5 วินาที โดยแต่ละจุดที่ทำการฉีดจะมีระยะห่างกัน 2-4 เซนติเมตร โดยประมาณ การฉีดในลักษณะนี้แบ่งออกเป็น 2 แบบคือ <br />
<br />
การฉีดบนหนังกำพร้า <br />
<br />
การฉีดใต้หนังกำพร้า ลึกประมาณ 2 มิลลิเมตร <br />
<br />
การฉีดเป็นขั้นตอน โดยการฉีดอย่างช้า ๆ ทีละจุด โดยอยู่ที่ความลีกประมาณ 3 มิลลิเมตร <br />
<br />
การฉีดผ่านเครื่องมือซึ่งประกอบด้วยหัวเข็ม 3, 5 หรือ 7 หัว โดยสารที่ฉีดจะถูกส่งออกมาในปริมาณที่เท่ากัน และพร้อม ๆ กันในเวลาเดียว <br />
<br />
การฉีดด้วยเครื่องยิง<br />
<br />
ลักษณะการฉีดเช่นเดียวกับการฉีดด้วยมือ แต่สามารถควบคุมปริมาณของสารที่ฉีด ความลึก และจังหวะการฉีดที่มีความสม่ำเสมอกว่า<br />
<br />
ผลลัพธ์และผลข้างเคียงของ Mesotherapy<br />
<br />
ผลของการรักษาจะได้ผลดีขนาดไหนนั้น ขึ้นอยู่กับสภาพร่างกายของผู้เข้ารับการบริการ ส่วนมากจะเห็นผลชัดเจนเมื่อฉีดแล้วประมาณ 5-10 ครั้ง ส่วนผลข้างเคียงจากการฉีด คือการเกิดรอยช้ำบริเวณที่ฉีด แต่จะค่อย ๆ หายไปเอง<br />
<br />
แหล่งที่มา : <a href="http://www.paktainews.com/bbs/viewthread.php?tid=1838">http://www.paktainews.com/bbs/viewthread.php?tid=1838</a></td></tr>
</tbody></table></div>นางสาวสมพร ทำประเสริฐhttp://www.blogger.com/profile/07116300437793994781noreply@blogger.com0tag:blogger.com,1999:blog-2613019797140417166.post-73668753721745714042011-02-17T19:48:00.001+07:002011-02-21T13:08:13.559+07:00ความหมายของ CAI<div class="title"><span style="background-color: white;">ความหมาย CAI</span></div><span style="background-color: white;">CAI คือ คอมพิวเตอร์ช่วยสอน</span><br />
<h3 style="background: white; margin: 12pt 0cm 3pt;"><span style="color: black; font-family: "Angsana New"; font-size: 16pt; font-weight: normal;"><span style="background-color: white;">CAI ย่อมาจากคำว่า COMPUTER-ASSISTED หรือ AIDED INSTRUCTION</span><span style="font-size: large;"><span style="background-color: white;"><span class="goog_qs-tidbit goog_qs-tidbit-0">คอมพิวเตอร์ช่วยสอน (</span><span class="goog_qs-tidbit goog_qs-tidbit-0">CAI) </span><span class="goog_qs-tidbit goog_qs-tidbit-0">หมายถึง สื่อการเรียนการสอนทางคอมพิวเตอร์รูปแบบหนึ่ง ซึ่งใช้ความสามารถของคอมพิวเตอร์ในการนำเสนอสื่อประสมอันได้แก่</span> ข้อความ ภาพนิ่ง กราฟฟิก แผนภูมิ กราฟ วิดีทัศน์ ภาพเคลื่อนไหว และเสียง เพื่อถ่ายทอดเนื้อหาบทเรียน หรือองค์ความรู้ในลักษณะที่ ใกล้เคียงกับการสอนจริงในห้องเรียนมากที่สุด<br />
<br />
โดยมีเป้าหมายที่สำคัญก็คือ สามารถดึงดูดความสนใจของผู้เรียน และกระตุ้นให้เกิดความต้องการที่ จะเรียนรู้ คอมพิวเตอร์ช่วยสอนเป็นตัวอย่างที่ดีของสื่อการศึกษาในลักษณะตัวต่อตัว ซึ่งผู้เรียนเกิดการเรียนรู้จากการมีปฏิสัมพันธ์ หรือการโต้ตอบพร้อมทั้งการได้รับผลป้อนกลับ (FEEDBACK) นอกจากนี้ยังเป็นสื่อ ที่สามารถตอบสนองความแตกต่างระหว่างผู้เรียนได้เป็นอย่างดี รวมทั้งสามารถที่จะประเมิน และตรวจสอบความเข้าใจของผู้เรียนได้ตลอดเวลา</span></span></span></h3><div style="background: white;"><span style="font-size: large;"><span style="background-color: white;"><span style="color: black; font-family: "Angsana New";">คุณลักษณะที่เป็นองค์ประกอบสำคัญของคอมพิวเตอร์ช่วยสอน </span><span style="color: black; font-family: "Angsana New";">4 ประการ ได้แก่</span></span></span><br />
<span style="font-size: large;"><span style="background-color: white;"><span style="color: black; font-family: "Angsana New"; mso-fareast-font-family: 'Angsana New';"><span style="mso-list: Ignore;">1.<span style="font-family: "Times New Roman";"> </span></span></span><strong><span style="color: black; font-family: "Angsana New"; font-weight: normal;">สารสนเทศ (</span></strong><strong><span style="color: black; font-family: "Angsana New"; font-weight: normal;">Information) </span></strong></span></span><span style="color: black; font-family: "Angsana New";"><br />
<span style="background-color: white; font-size: large;"> หมายถึง เนื้อหาสาระที่ได้รับการเรียบเรียง ทำให้ผู้เรียนเกิดการเรียนรู้ หรือได้รับทักษะอย่างหนึ่งอย่างใดตามที่ผู้สร้างได้กำหนดวัตถุประสงค์ไว้ การนำเสนออาจเป็นไปในลักษณะทางตรง หรือทางอ้อมก็ได้ ทางตรงได้แก่ คอมพิวเตอร์ช่วยสอนประเภทติวเตอร์ เช่นการอ่าน จำ ทำความเข้าใจ ฝึกฝน ตัวอย่าง การนำเสนอในทางอ้อมได้แก่ คอมพิวเตอร์ช่วยสอนประเภทเกมและการจำลอง </span></span><br />
<span style="font-size: large;"><span style="background-color: white;"><span style="color: black; font-family: "Angsana New"; mso-fareast-font-family: 'Angsana New';"><span style="mso-list: Ignore;">2.<span style="font-family: "Times New Roman";"> </span></span></span><strong><span style="color: black; font-family: "Angsana New"; font-weight: normal;">ความแตกต่างระหว่างบุคคล (</span></strong><strong><span style="color: black; font-family: "Angsana New"; font-weight: normal;">Individualization) </span></strong></span></span><span style="color: black; font-family: "Angsana New";"><br />
<span style="background-color: white; font-size: large;"> การตอบสนองความแตกต่างระหว่างบุคคล คือลักษณะสำคัญของคอมพิวเตอร์ช่วยสอน บุคคลแต่ละบุคคลมีความแตกต่างกันทางการเรียนรู้ คอมพิวเตอร์ช่วยสอน เป็นสื่อประเภทหนึ่งจึงต้องได้รับการออกแบบให้มีลักษณะที่ตอบสนองต่อความแตกต่างระหว่างบุคคลให้มากที่สุด </span></span><br />
<span style="font-size: large;"><span style="background-color: white;"><span style="color: black; font-family: "Angsana New"; mso-fareast-font-family: 'Angsana New';"><span style="mso-list: Ignore;">3.<span style="font-family: "Times New Roman";"> </span></span></span><strong><span style="color: black; font-family: "Angsana New"; font-weight: normal;">การโต้ตอบ (</span></strong><strong><span style="color: black; font-family: "Angsana New"; font-weight: normal;">Interaction) </span></strong></span></span><span style="color: black; font-family: "Angsana New";"><br />
<span style="background-color: white; font-size: large;"> คือการมีปฏิสัมพันธ์กันระหว่างผู้เรียนกับคอมพิวเตอร์ช่วยสอนการเรียน การสอนรูปแบบที่ดีที่สุดก็คือเปิดโอกาสให้ผู้เรียนได้มีปฏิสัมพันธ์กับผู้สอนได้มากที่สุด </span></span><br />
<span style="font-size: large;"><span style="background-color: white;"><span style="color: black; font-family: "Angsana New"; mso-fareast-font-family: 'Angsana New';"><span style="mso-list: Ignore;">4.<span style="font-family: "Times New Roman";"> </span></span></span><strong><span style="color: black; font-family: "Angsana New"; font-weight: normal;">การให้ผลป้อนกลับโดยทันที (</span></strong><strong><span style="color: black; font-family: "Angsana New"; font-weight: normal;">Immediate Feedback) </span></strong></span></span><span style="color: black; font-family: "Angsana New";"><br />
<span style="background-color: white; font-size: large;"> ผลป้อนกลับหรือการให้คำตอบนี้ถือเป็นการ เสริมแรงอย่างหนึ่ง การให้ผลป้อนกลับแก่ผู้เรียนในทันทีหมายรวมไปถึงการที่คอมพิวเตอร์ช่วยสอนที่สมบูรณ์จะต้องมีการ ทดสอบหรือประเมินความเข้าใจของผู้เรียนในเนื้อหาหรือทักษะต่าง ๆ ตามวัตถุประสงค์ที่กำหนดไว้ </span></span></div><div class="MsoNormal" style="background: white; margin: 0cm 0cm 0pt 51pt; mso-list: l0 level1 lfo1; mso-margin-bottom-alt: auto; mso-margin-top-alt: auto; tab-stops: list 36.0pt; text-indent: -18pt;"><br />
<span style="color: black; font-family: "Angsana New";"><span style="background-color: white; font-size: large;">แหล่งที่มา : </span><a href="http://portal.in.th/inno-vi/pages/396/"><span style="background-color: white; font-size: large;">http://portal.in.th/inno-vi/pages/396/</span></a></span></div>นางสาวสมพร ทำประเสริฐhttp://www.blogger.com/profile/07116300437793994781noreply@blogger.com0tag:blogger.com,1999:blog-2613019797140417166.post-65462177084943612382011-02-17T19:46:00.002+07:002011-02-21T13:11:00.699+07:00MutipointMultipoint เป็น Technology ที่ทาง Microsoft พัฒนาขึ้นมาเพื่อให้คอมพิวเตอร์ 1 เครื่องสามารถต่อเชื่อมกับ mouse ได้มากกว่า 1 ตัว จนถึง 250 ตัว<br />
โดยทั่วไปถ้าเรานำ mouse 1 ตัวไปเชื่อมต่อกับคอมพิวเตอร์ จะปรากฏ pointer (ลูกศรตัวชี้) เพียง 1 ตัวเท่านั้น ทำให้ไม่สามารถแยกการใช้งานได้ ถ้าต้องการให้ mouse แต่ละตัวมี pointer ของตัวเองแล้วละก็ ต้องใช้ Technology Microsoft Multipoint นั่นเอง<br />
<div style="text-align: center;"><a $included="null" href="http://micthailand.net/controlpanel/blogs/posteditor.aspx/$image7.png"></a>ตัวอย่าง เกมส์ที่มี mouse 2 ตัว และ 2 pointer รูปช้างน้อยกับเจ้าไทเก้อ</div><div style="text-align: left;">แล้วจะนำ Microsoft Multipoint มาใช้ได้อย่างไร ?</div><div style="text-align: left;">Multipoint ไม่ใช่ Feature ที่ติดมากับ Microsoft Windows XP,Windows Vista หรือ Windows 7 การจะใช้ Multipoint ได้นั้นจะต้องมีโปรแกรมที่สนับสนุน Multipoint โดยโปรแกรมที่สนับสนุน Multipoint ก็จะพัฒนาขึ้นมาโดยอาศัยเครื่องมือที่ชื่อว่า Microsoft Multipoint SDK โดยเวอร์ชั่นปัจจุบัน ณ เวลาที่เขียน คือ 1.1 Multipoint SDK สามารถ Download ได้จากลิงค์ <a $included="null" href="http://www.microsoft.com/downloads/details.aspx?displaylang=en&FamilyID=f851122a-4925-4788-bc39-409644ce0f9b" title="http://www.microsoft.com/downloads/details.aspx?displaylang=en&FamilyID=f851122a-4925-4788-bc39-409644ce0f9b"><span style="color: #694285;">http://www.microsoft.com/downloads/details.aspx?displaylang=en&FamilyID=f851122a-4925-4788-bc39-409644ce0f9b</span></a> ในหน้า Download จะพบไฟล์ต่างๆ ดังรูปที่น่าสนใจ คือ การนำ Multipoint ไปใช้กับ Flash ซึ่ง Application ของ Flash ส่วนใหญ่แล้วจะเป็นเกมส์ แบบเล่นคนเดียวและเล่นหลายคน (Client & Server) ถ้าได้เกมส์ที่สามารถเล่นได้พร้อมกันสองคนด้วย mouse 2 ตัว และ คอมพิวเตอร์ 1 เครื่อง คงสนุกไม่น้อยเลยทีเดียว ยกตัวอย่างเกมส์ Photo Hunt</div><div style="text-align: left;">ดูๆ แล้วก็เหมาะให้น้องนักศึกษาเอาไปทำเป็น Project จบเหมือนกันนะครับ</div><div style="text-align: left;">ภายใน Multipoint SDK จะประกอบด้วย 3 ส่วนหลัก คือ</div><ol><li><div style="text-align: left;">ตัวอย่างโค้ดและโปรแกรม (Multipoint Quiz Game, Multipoint Tic-Tac-Toe, Multipoint Map เป็นต้น)</div></li>
<li><div style="text-align: left;">ชุด .dll ไฟล์ หรือ libraly</div></li>
<li><div style="text-align: left;">Document API</div></li>
</ol><div style="text-align: left;">แน่นอนว่าต้องพัฒนาผ่านทาง Microsoft Visual Studio .NET โดย Version ที่สนับสนุนคือ Microsoft Visual Studio 2005 และ Microsoft Visual Studio 2008 ภาษาที่สามารถใช้พัฒนาด้วยเทคโนโลยี Microsoft Multipoint คือ C#.NET, VB.NET และ VB</div><div style="text-align: left;">System Requirement</div><ul><li><div style="text-align: left;">Windows XP SP2+, Windows Vista+, Windows 7</div></li>
<li><div style="text-align: left;">Visual Studio 2005/2008</div></li>
<li><div style="text-align: left;">Resolution 800x600</div></li>
</ul><div style="text-align: left;">Microsoft Multipoint SDK ทำอะไรได้บ้าง (Can do)</div><ul><li><div style="text-align: left;">โชว์ pointer ของ mouse แต่ละตัวได้</div></li>
<li><div style="text-align: left;">ใส่รูปให้กับ pointer และ เปลี่ยนสี pointer ได้</div></li>
<li><div style="text-align: left;">สามารถตรวจจับการ click จาก mouse หลายๆ ตัวได้จาก deligate,event</div></li>
<li><div style="text-align: left;">ซ่อน pointer ได้</div></li>
<li><div style="text-align: left;">ใช้งานร่วมกับ WPF และ Flash ได้</div></li>
<li><div style="text-align: left;">สนับสนุน Plug & Play (เสียบเมาส์แล้วใช้ได้เลย)</div></li>
</ul><div style="text-align: left;">Microsoft Multipoint SDK ไม่สนับสนุนอะไรบ้าง (Can not)</div><ul><li><div style="text-align: left;">การทำ extended desktop จะทำให้ไม่สามารถใช้ Multipoint ได้</div></li>
<li><div style="text-align: left;">ไม่สามารถนำไปแสดงพร้อมกัน 2 monitor ได้</div></li>
<li><div style="text-align: left;">ไม่สนับสนุนการแสดงบน remote desktop</div></li>
<li><div style="text-align: left;">ไม่สามารถรันคำสั่ง MessageBox.show()</div></li>
<li><div style="text-align: left;">เนื่องจากเป็นการแสดงผลผ่าน DirectX เหตุนี้จึงไม่สามารถใช้ Menu จาก Windows Form ได้ เช่น Minimize, Maximize, Close</div></li>
</ul><div style="text-align: left;">ตัวอย่างโปรแกรมที่ใช้ Multipoint และประสบความสำเร็จอย่างสูง คือ MithyMice โปรแกรมนี้จะใช้สำหรับเป็นสื่อการเรียนการสอนสำหรับสถานศึกษาที่มีจำนวนคอมพิวเตอร์ต่อนักเรียนน้อย เช่น Computer 1 ตัว ต่อ นักเรียน 40 คน เมื่อนำ Multipoint เข้ามาใช้จึงทำให้ Computer 1 เครื่อง สามารถถูกใช้งานได้พร้อมกันจากนักเรียน 40 คน</div><div style="text-align: left;">การสร้างเนื้อหาสำหรับสื่อการเรียนการสอนโดย MithyMice สามารถทำได้โดยการใช้ Microsoft Office PowerPoint 2003/2007 สามารถ Download โปรแกรมได้จาก <a $included="null" href="http://www.pil.in.th/"><span style="color: #694285;">http://www.pil.in.th</span></a> มีประวัติและวิธีการใช้งานโปรแกรมอย่างละเอียด</div><div style="text-align: left;"><br />
</div><div style="text-align: left;"><strong><span style="font-size: large;">แหล่งที่มา : <a href="http://www.buriram1.go.th/index.php?option=com_myblog&show=microsoft-multipoint-a-a-a-a-a-a-a-.html&Itemid=150">http://www.buriram1.go.th/index.php?option=com_myblog&show=microsoft-multipoint-a-a-a-a-a-a-a-.html&Itemid=150</a></span></strong></div>นางสาวสมพร ทำประเสริฐhttp://www.blogger.com/profile/07116300437793994781noreply@blogger.com0tag:blogger.com,1999:blog-2613019797140417166.post-27210337699765216472011-02-17T18:49:00.010+07:002011-02-21T13:13:44.820+07:00นวัตกรรมนาโนเทคโนโลยี<div align="center"><strong>นวัตกรรมนาโนเทคโนโลยี</strong></div><div align="left"></div>ด้วยการพัฒนาและความความก้าวหน้าทางด้านนาโนเทคโนโลยี ทำให้เราทราบมากขึ้นว่าเมื่อวัตถุต่างๆ มีโครงสร้างเล็กในระดับนาโนเมตรแล้วนั้น จะส่งผลให้วัตถุนั้นมีคุณสมบัติเฉพาะตัวที่แตกต่างออกไปจากเดิม ทำให้เกิดเป็นคุณสมบัติพิเศษที่สามารถนำมาใช้ประโยชน์ได้ จึงทำให้ในปัจจุบันเหล่านักวิทยาศาสตร์ต่างก็หันมาให้ความสำคัญกับการใช้ประสิทธิภาพ และคุณสมบัติที่พิเศษของโครงสร้างนาโนในการที่จะผลิตนวัตกรรมต่างๆ ออกมาให้ผู้คนทั่วไปได้ใช้ ซึ่งเป็นผลิตภัณฑ์ที่มีคุณภาพสูงขึ้น มีความปลอดภัยต่อผู้ใช้ และตอบสนองต่อความต้องการได้เป็นอย่างดี ทำให้ตลาดของนวัตกรรมนาโนในปัจจุบันนี้มีอัตราการเจริญเติบโตสูง และกำลังอยู่ในความสนใจของทุกๆ คนอย่างมาก <br />
<br />
โครงสร้างนาโนแต่ละชนิดต่างก็มีคุณสมบัติเฉพาะที่ให้ความพิเศษที่แตกต่างกัน ในปัจจุบันที่ได้มีการนำมาประยุกต์ใช้สำหรับการผลิตเป็นผลิตภัณฑ์ต่างๆ นั้น ได้แก่ อนุภาคนาโนของธาตุเงินหรือนาโนซิลเวอร์ อนุภาคนาโนของออกไซด์สังกะสี ท่อนาโนคาร์บอน บัคมินสเตอร์ฟลูเลอรีนหรือบัคกี้บอล เป็นต้น ซึ่งส่งผลให้ผลิตภัณฑ์ต่างๆ มีความพิเศษต่อการใช้งานมากขึ้น <br />
<div align="center" hasbox="2"><img hasbox="2" height="303" src="http://www.atom.rmutphysics.com/charud/scibook/nanotech/Picture/Nanoproduct1.jpg" width="108" /></div><br />
สารหล่อลื่นสำหรับเล่นสกีใช้เทคโนโลยีทางด้านเคมีระดับนาโน เพื่อสร้างสารเคลือบพื้นผิววัสดุให้คุณสมบัติของวัสดุมีความหลากหลายมากขึ้น ซึ่งในสารหล่อลื่นสำหรับเล่นสกีนี้ อาศัยคุณสมบัติการจัดตัวเองได้ของสารฟลูออไรด์พอลิเมอร์และคุณสมบัติเฉพาะของอนุภาคนาโนที่ผสมอยู่ ทำให้เมื่อใช้สารหล่อลื่นนี้ทาเคลือบพื้นผิวของอุปกรณ์ที่ใช้สำหรับการเล่นสกีแล้ว (ไม่ต้องเติมหรือผสมในโครงสร้างของสกีแต่อย่างใด) จะทำ ให้อุปกรณ์นั้นมีพื้นผิวสัมผัสที่สามารถทนต่อสภาพอากาศที่เปลี่ยนแปลงบ่อยๆ หรือสภาพอากาศที่หนาวเย็นมากได้เป็นอย่างดี ดังนั้นจึงทำให้การเล่นสกีมีความคล่องตัวและสามารถที่ควบคุมการไถลได้มากขึ้น ทำให้นักกีฬาสามารถควบคุมการเร่งความเร็วอย่างสูงสุดได้บนพื้นผิวหิมะ และที่มากไปกว่านั้นก็คือชั้นที่เป็นพอลิเมอร์ของสารหล่อลื่นที่เคลือบไว้นี้ จะสามารถปรับพื้นผิวสัมผัสให้มีต้านทานที่มากขึ้นกว่าเดิม เมื่อผู้ใช้เล่นสกีไปเจอกับพื้นผิวหิมะที่ขรุขระหรือไม่ราบเรียบได้ด้วย <br />
<br />
<strong><span style="font-size: large;">เสื้อคลุมนาโนสำหรับเล่นสกี</span></strong><br />
<br />
<strong><span style="font-size: large;"></span></strong><br />
<div style="text-align: center;"><img hasbox="2" height="318" src="http://www.atom.rmutphysics.com/charud/scibook/nanotech/Picture/Nanoproduct2.jpg" width="385" /></div>เสื้อสกีกันน้ำใช้สำหรับสวมใส่คลุมในขณะที่ทำการเล่นสกี ซึ่งเป็นเสื้อสกีกันน้ำแบบใหม่ล่าสุดที่ใช้เทคโนโลยีระดับนาโนในการสร้างวัสดุของเสื้อ โดยผลิตขึ้นมาเป็นเสื้อที่มีลักษณะเป็นสองชั้น สามารถใช้ต้านทานกระแสลม ป้องกันการเปียกน้ำ ระบายอากาศภายในได้ดี และป้องกันการจับตัวของฝุ่นละอองต่างๆ ที่อยู่ในอากาศได้ และที่สำคัญเสื้อสกีกันน้ำนี้มีอายุการใช้งานที่นาน โดยไม่จำเป็นต้องซักทำความสะอาดจะกว่าจะหมดช่วงฤดูกาลของการเล่นสกี โดยเสื้อก็ไม่เกิดการเสื่อมสภาพจากการที่ไม่ต้องซักทำความสะอาดนี้เลย <br />
<br />
<img hasbox="2" height="30" src="http://www.atom.rmutphysics.com/charud/scibook/nanotech/Picture/Product-2003_3.jpg" width="400" /><br />
<br />
<div align="center" hasbox="2"></div><div align="center" hasbox="2"><img hasbox="2" height="314" src="http://www.atom.rmutphysics.com/charud/scibook/nanotech/Picture/Nanoproduct3.jpg" width="397" /></div><div style="text-align: center;"><br />
</div>เสื้อผ้าที่ไม่ยับและไม่สกปรกนี้ เป็นเสื้อผ้าที่สามารถดับกลิ่นอับและฆ่าเชื้อแบคทีเรีย โดยวิธีการผสมโครงสร้างระดับโมเลกุลของ อนุภาคนาโนของไททาเนียมไดออกไซด์ เข้าไปยึดติดกับเส้นใยภายในเนื้อผ้า ทำให้เกิดพื้นผิวปิดกั้นที่มีขนาดเล็กระดับนาโนเมตรบนเนื้อผ้า ทำให้เสื้อผ้าไม่เกิดรอยยับจากการสวมใส่ อีกทั้งทำให้ฝุ่นละออง เชื้อแบคทีเรีย เชื้อรา คราบสกปรก และของเหลวต่างๆ ที่ตกกระทบไม่สามารถที่จะซึมผ่านโครงสร้างระดับนาโน หรือกระจายตัวเกาะติดกับเสื้อผ้านี้ได้อีกด้วย (เหมือนกับหลักการของน้ำกลิ้งบนใบบัว) จึงทำให้ของเหลวที่ตกลงมากลิ้งหรือไหลหลุดออกจากเนื้อผ้าโดยปราศจากร่องรอยใดๆ และเทคโนโลยีระดับนาโนนี้ ก็ไม่ทำให้ผู้สวมใส่เสื้อผ้ามีความรู้สึกแตกต่างจากการสวมใส่เสื้อผ้าที่ทำจากเส้นใยธรรมชาติแต่อย่างใดเลย และยังสามารถรู้สึกได้ถึงความนุ่มและโปร่งโล่งสบายของเนื้อผ้าได้ และเมื่อใช้โครงสร้างระดับนาโนนี้ผสมแล้ว จะทำให้เส้นใยเนื้อผ้ามีอายุการใช้งานที่ยาวนานมากขึ้น ไม่เสื่อมประสิทธิภาพเร็ว แม้ว่าจะผ่านการซักรีดเป็นระยะเวลานานก็ตาม <br />
<img hasbox="2" height="30" src="http://www.atom.rmutphysics.com/charud/scibook/nanotech/Picture/Product-2003_4.jpg" width="400" /><br />
<br />
<br />
<div align="center" hasbox="2"><img hasbox="2" height="225" src="http://www.atom.rmutphysics.com/charud/scibook/nanotech/Picture/Nanoproduct4.jpg" width="198" /></div><br />
ครีมบำรุงผิวที่ซึมซาบอย่างลึกซึ้งได้ โดยเป็นการผลิตครีมบำรุงผิวที่ใช้เทคนิคการบรรจุเนื้อครีมที่มีไวตามินต่างๆ เพื่อบำรุงผิวที่มีขนาดเล็กมากไว้ภายในแคปซูลพอลิเมอร์ขนาดเล็กจิ๋วระดับนาโนเมตร โดยที่แคปซูลพอลิเมอร์ที่ใช้ห่อหุ้มนี้มีขนาดเส้นผ่านศูนย์กลางเพียง 200 นาโนเมตร ซึ่งสังเคราะห์ขึ้นมาจากพอลิเมอร์ชีวภาพที่ปลอดภัยและสามารถย่อยสลายได้เอง ด้วยคุณสมบัติของขนาดแคปซูลนี้ จึงทำให้เนื้อครีมสามารถแทรกซึมเข้าไปในชั้นใต้ผิวหนังได้ในระดับลึกมากยิ่งขึ้น และเมื่อแคปซูลเข้าไปภาายในร่างกายแล้วก็จะเกิดการละลายตัว และค่อยๆ ปล่อยไวตามินต่างๆ ที่บรรจุไว้ออกมา ทำให้ช่วยบำรุงผิวหนังให้กระชับมากขึ้น และสามารถลดริ้วรอยหรือรอยย่นของผิวหนังได้เป็นอย่างดี <br />
<br />
<img hasbox="2" height="30" src="http://www.atom.rmutphysics.com/charud/scibook/nanotech/Picture/Product-2003_5.jpg" width="400" /><br />
<br />
<div align="center" hasbox="2"><img hasbox="2" height="173" src="http://www.atom.rmutphysics.com/charud/scibook/nanotech/Picture/Nanoproduct5.jpg" width="287" /></div>กล้องระบบดิจิตัลเป็นกล้องดิจิตอลเทคโนโลยีโอแอลอีดีนี้ เป็นกล้องถ่ายรูประบบดิจิตัลที่ให้ภาพที่คมชัดด้วย อุปกรณ์แสดงผลฟิล์มบางอินทรีย์เปล่งแสงหรือโอแอลอีดี (OLED : organic light-emitting diode) ที่ถูกสร้างขึ้น โดยมีความบางในระดับนาโนเมตรและถูกนำมาใช้แทนจอภาพแบบแอลซีดี (LCD : liquid crystal disply)ที่กำลังนิยมใช้กันมากสำหรับทีวีจอแบบหรือจอภาพของคอมพิวเตอร์ ซึ่งเทคโนโลยีโอแอลอีดี นี้ทำให้จอภาพได้ภาพที่คมจัดมากยิ่งขึ้น มีมุมของการมองที่กว้างมากขึ้น ไม่จำเป็นต้องใช้การให้แสงทางด้านหลัง (backlighting) เหมือนจอแอลซีดี และยังใช้พลังงานน้อยในการทำงานอีกด้วย<br />
โดยกล้องเทคโนโลยีโอแอลอีดีนี้ประกอบไปด้วยด้านหน้าสุดที่เป็นกระจกซึ่งเคลือบด้วย indium-tin oxide ทำหน้าที่เป็น anode ถัดจากนั้นจะเป็นชั้นของสาร organic ชั้นแรกที่ทำด้วย aromatic diamine ถัดมามาจะเป็นชั้นของ organic ชั้นที่ 2 ที่เป็น metal chelate complex ซึ่งจะเป็นชั้นที่ ทำหน้าที่ปลดปล่อยแสงออกมา และในชั้นสุดท้ายจะเป็น cathode ที่ทำจาก magnesium และ silver สรุปก็คือจอทั้งหมดจะมีอยู่ 4 ชั้น (รวมกระจกด้านหน้าด้วย) ซึ่งมีความหนาอยู่ที่ 500 นาโนเมตรเท่านั้นและยิ่งไปกว่านั้นก็คือ ความหนาที่ว่านี้ไม่ต้องมี back-light หรือไฟส่องที่ด้านหลังด้วยเพราะอย่างที่บอกครับว่าจอ OLED นั้นสามารถเรืองแสงได้ด้วยตัวเอง<br />
<br />
แหล่งที่มา : <a href="http://www.atom.rmutphysics.com/charud/scibook/nanotech/Page/Unit5-1.html">http://www.atom.rmutphysics.com/charud/scibook/nanotech/Page/Unit5-1.html</a>นางสาวสมพร ทำประเสริฐhttp://www.blogger.com/profile/07116300437793994781noreply@blogger.com0tag:blogger.com,1999:blog-2613019797140417166.post-15393900774698231442011-02-17T18:46:00.003+07:002011-02-17T18:47:25.917+07:00"เซรั่ม" ยางพารานวัตกรรมใหม่ ผลิตผลนักวิจัย มอ.หาดใหญ่<div style="text-align: center;"><strong>"เซรั่ม" ยางพารานวัตกรรมใหม่ ผลิตผลนักวิจัย มอ.หาดใหญ่ </strong></div>การคิดค้นนวัตกรรมใหม่ๆ เพื่อเพิ่มมูลค่าผลิตภัณฑ์จากยางพาราซึ่งเป็นพืชเศรษฐกิจสำคัญของประเทศไทย จนนำมาสู่ความสำเร็จในการคิดค้นเป็นผลิตภัณฑ์บำรุงผิวหน้าที่ผลิตจากสารสกัดยางพารา หรือ ครีมยางพารา ( HB Cream 5 %) ผลงานของ รศ.ดร.รพีพรรณ วิฑิตสุวรรณกุล ภาควิชาเคมี ม.สงขลานครินทร์ วิทยาเขตหาดใหญ่ กลายเป็นอีกหนึ่งก้าวแห่งความสำเร็จสู่การเป็นผู้ประดิษฐ์ในสิทธิบัตรครีมเสริมสุขภาพผิวจากยางพาราได้สำเร็จ <br />
<div style="text-align: center;"><img height="360" src="http://www.komchadluek.net/media/img/size1/2011/02/14/j55ikbea9dafb5dc8ac6b.jpg" width="480" /></div>กระทั่งวันนี้ครีมยางพาาได้กลายเป็นสินค้าหลักที่สามารถสร้างเป็นแบรนด์สินค้าในเชิงพาณิชย์ให้แก่บริษัท พี.เอส.ยู.นวัตวาณิชย์ จำกัด ในศูนย์บ่มเพาะวิสาหกิจ มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ที่ป้อนสินค้าออกสู่ตลาดได้อย่างน่าชื่นชมตลอด 2 ปีที่ผ่านมา<br />
<br />
รศ.ดร.รพีพรรณ ระบุว่า ความสำเร็จดังกล่าวนับเป็นก้าวแรกที่ทำให้การทดลองการเพิ่มมูลค่าสินค้าจากยางพาราได้รับความสนใจและได้รับการยอมรับจากสังคมภายนอกอย่างกว้างขวาง ขณะเดียวกันความสำเร็จดังกล่าวก็ยังส่งผลให้คณะผู้วิจัยเกิดมุมมองและแนวทางที่จะคิดค้นหาผลิตภัณฑ์ตัวใหม่ๆ มากขึ้นเรื่อยๆ เพื่อพัฒนาและต่อยอดงานวิจัยให้เป็นที่ยอมรับและเพิ่มทางเลือกของสินค้าที่หลากหลายและเข้าถึงทุกกลุ่มเป้าหมายให้มากขึ้นได้อีกด้วย และที่สำคัญสินค้าและผลิตภัณฑ์แทบทุกตัวยังต้องสามารถการันตรีได้ถึงสินค้าดีมีคุณภาพที่ได้รับการรับรองอย่างถูกต้องด้วยเช่นกัน<br />
<br />
ล่าสุดได้คิดค้นผลิตภัณฑ์ตัวใหม่ที่เป็นการพัฒนาต่อยอดจากผลิตภัณฑ์ที่มีอยู่ให้เกิดประสิทธิภาพสูงสุด นั่นคือ การผลิต "เซรั่ม" บำรุงผิวหน้าจากน้ำยางพาราได้สำเร็จ ซึ่งขณะนี้อยู่ระหว่างการศึกษาและทดลองขั้นสุดท้าย ก่อนนำมาผลิตเป็นสินค้าตัวใหม่วางจำหน่ายอย่างเป็นทางการและมั่นใจว่าจะสร้างความฮือฮาให้แวดวงกลุ่มผู้รักสุขภาพ ตลอดจนกลุ่มธุรกิจเสริมความงามได้อีกครั้งไม่แพ้ผลิตภัณฑ์ครีมยางพาราสินค้าตัวแรกที่ออกมา <br />
<br />
รศ.ดร.รพีพรรณ อธิบายว่า สำหรับตัว "เซรั่ม" ความจริงแล้วในส่วนของขั้นตอนการวิจัยได้เสร็จสิ้นแล้ว ปัจจุบันอยู่ในขั้นตอนการให้อาสาสมัครทดลองใช้ในระยะ 30-60 วันเพื่อให้ได้ผลในทางปฏิบัติที่ชัดเจน ซึ่งเบื้องต้นจากการติดตามกลุ่มอาสาสมัครส่วนใหญ่ร้อยละ 90 ได้ผลเป็นที่น่าพอใจอย่างมากและมีเสียงตอบรับจากผู้ทดลองใช้แจ้งความประสงค์ในการใช้เป็นผลิตภัณฑ์เพื่อบำรุงผิวทันทีที่เสร็จสิ้นการทดลอง<br />
<br />
"ผลิตภัณฑ์ครีมยางพาราตัวเดิมจะอยู่ในรูปแบบของครีมบำรุงผิว ที่มีคุณสมบัติเน้นปรับสุขภาพผิว ทำให้ผิวหน้าเรียบเนียนใส อีกทั้งสารสกัดบางชนิดมีคุณสมบัติทำให้สิวบนใบหน้าหายได้ ขณะเดียวกันก็รักษาสมานบาดแผลจากร่องรอยสิวให้ตื้นขึ้น แต่สำหรับ "เซรั่ม" นวัตกรรมตัวใหม่จะมีคุณสมบัติเฉพาะที่สารสกัดในตัวเซรั่ม ซึ่งเป็นอนุภาคของโมเลกุลของน้ำที่ซึมซับลงสู่ผิวหน้าได้เร็วกว่าชนิดครีม ที่สำคัญสารสกัดดังกล่าวยังเน้นให้ความชุ่มชื้นแก่ผิวหนังชั้นใน ช่วยกระตุ้นให้เกิดการสร้างคอลาเจลช่วยเติมเต็มผิวหน้าที่เป็นร่องรอยเหี่ยวหย่น ให้กลับมาดูสุขภาพดีขึ้น" รศ.ดร.รพีพรรณ กล่าว<br />
<br />
ความสำเร็จดังกล่าวนอกจากจะช่วยสร้างมูลค่าให้แก่ยางพาราได้แล้ว ในอนาคตยังช่วยให้เกษตรกรหันมาให้ความสนใจเรื่องของนวัตกรรมใหม่ๆ ที่จะก้าวเข้ามาเกี่ยวข้องกับชีวิตประจำวันมากขึ้นเรื่อยๆ อีกทั้งยังได้ค่าตอบแทนเชิงพาณิชย์ที่น่าสนใจไม่แพ้กัน โดยที่เกษตรกรไม่ต้องคอยกังวลใจกับการผูกขาดราคาน้ำยางพาราที่ขึ้น-ลงตามกลไกตลาดโลกเท่านั้น<br />
<br />
ทั้งนี้ หากใครสนใจสามารถติดต่อและสอบถามความคืบหน้าได้ที่ บริษัทพี.เอส.ยู.นวัตวาณิชน์ ศูนย์บ่มเพาะวิสาหกิจ มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ 0-7435-4981 <br />
<br />
แหล่งที่มา : <a href="http://www.komchadluek.net/detail/20110215/88830/%E0%B9%80%E0%B8%8B%E0%B8%A3%E0%B8%B1%E0%B9%88%E0%B8%A1%E0%B8%A2%E0%B8%B2%E0%B8%87%E0%B8%9E%E0%B8%B2%E0%B8%A3%E0%B8%B2%E0%B8%99%E0%B8%A7%E0%B8%B1%E0%B8%95%E0%B8%81%E0%B8%A3%E0%B8%A3%E0%B8%A1%E0%B9%83%E0%B8%AB%E0%B8%A1%E0%B9%88%E0%B8%9C%E0%B8%A5%E0%B8%B4%E0%B8%95%E0%B8%9C%E0%B8%A5%E0%B8%99%E0%B8%B1%E0%B8%81%E0%B8%A7%E0%B8%B4%E0%B8%88%E0%B8%B1%E0%B8%A2%E0%B8%A1%E0%B8%AD.%E0%B8%AB%E0%B8%B2%E0%B8%94%E0%B9%83%E0%B8%AB%E0%B8%8D%E0%B9%88.html">http://www.komchadluek.net/detail/20110215/88830/%E0%B9%80%E0%B8%8B%E0%B8%A3%E0%B8%B1%E0%B9%88%E0%B8%A1%E0%B8%A2%E0%B8%B2%E0%B8%87%E0%B8%9E%E0%B8%B2%E0%B8%A3%E0%B8%B2%E0%B8%99%E0%B8%A7%E0%B8%B1%E0%B8%95%E0%B8%81%E0%B8%A3%E0%B8%A3%E0%B8%A1%E0%B9%83%E0%B8%AB%E0%B8%A1%E0%B9%88%E0%B8%9C%E0%B8%A5%E0%B8%B4%E0%B8%95%E0%B8%9C%E0%B8%A5%E0%B8%99%E0%B8%B1%E0%B8%81%E0%B8%A7%E0%B8%B4%E0%B8%88%E0%B8%B1%E0%B8%A2%E0%B8%A1%E0%B8%AD.%E0%B8%AB%E0%B8%B2%E0%B8%94%E0%B9%83%E0%B8%AB%E0%B8%8D%E0%B9%88.html</a>นางสาวสมพร ทำประเสริฐhttp://www.blogger.com/profile/07116300437793994781noreply@blogger.com0tag:blogger.com,1999:blog-2613019797140417166.post-33970713432478618792011-02-17T18:40:00.004+07:002011-02-17T18:44:28.676+07:00เปิดตัวนวัตกรรมใหม่ "กล่องแจ๋ว" ผลิตจากข้าวโพด 100% ครั้งแรกในเมืองไทย<div style="text-align: center;"><strong>เปิดตัวนวัตกรรมใหม่ "กล่องแจ๋ว" ผลิตจากข้าวโพด 100% ครั้งแรกในเมืองไทย</strong> </div><div style="text-align: center;">. <img alt="" height="201" src="http://www.most.go.th/main/images/stories/DSC_0113_resize(5).jpg" width="300" /></div><br />
"ทีวีรักษ์โลก" ไทยทีวีสีช่อง 3 ร่วมกับ กระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี จัดแถลงข่าวโครงการ "ไอเดียแจ๋ว" พร้อมเปิดตัวกล่องแจ๋ว ซึ่งผลิตจากข้าวโพด 100% เมื่อวันจันทร์ 5 ก.ค.2553 ณ อาคารมาลีนนท์ทาวเวอร์<br />
<div align="center"><img alt="" height="201" src="http://www.most.go.th/main/images/stories/DSC_0001_resize(5).jpg" width="135" /></div><br />
รายการ "แจ๋ว" สานต่อสถานีทีวีรักษ์โลก แถลงข่าวโครงการ “ไอเดียแจ๋ว” โดยมี นายประวิทย์ มาลีนนท์ ก.ก.ผจก.ไทยทีวีสีช่อง 3 ดร.วีระชัย วีระเมธีกุล รมว.กระทรวงวิทยาศาสตร์ฯ นายพรเทพ เตชะไพบูลย์ รองผู้ว่าฯกทม. นายภูมิสรรค์ เสนีวงศ์ ณ อยุธยา เลขาฯมูลนิธิสถาบันราชพฤกษ์ พร้อมผู้แทนรพ.จุฬาภรณ์ และนางลักขณา นะวิโรจน์ รองปธ.ก.ก.บห.อาวุโสบริษัท เดอะมอลล์ กรุ๊ป จำกัด ร่วมด้วย<br />
<img alt="" height="201" src="http://www.most.go.th/main/images/stories/DSC_0041_resize(2).jpg" width="300" /> <img alt="" height="201" src="http://www.most.go.th/main/images/stories/DSC_0048_resize(5).jpg" width="300" /><br />
<br />
ดร.วีระชัย วีระเมธีกุล รมว.กระทรวงวิทยาศาสตร์ฯ กล่าวว่า โครงการนี้เกี่ยวข้องกับนวัตกรรมใหม่ "ไบโอพลาสติก" ที่ประยุกต์ใช้ครั้งแรกในเมืองไทย นอกจากจะเป็นการอนุรักษ์สิ่งแวดล้อมแล้ว ยังเป็นอีกก้าวในการพัฒนาอุตสาหกรรมและเพิ่มราคาผลผลิตภาคเกษตรกรรม อย่างที่เราทราบกันดีว่า พลาสติกส่วนใหญ่ทำมาจากปิโตรเคมีที่ย่อยสลายยาก และเป็นปัญหาของสังคมในการทำลาย แต่ในวันนี้การผลิตไบโอพลาสติก จะช่วยแก้ปัญหาเหล่านี้ได้ เพราะใช้เวลาในการย่อยสลายไม่ถึงปี แต่อาจยังมีราคาแพงไปสักนิด ซึ่งการพัฒนาอุตสาหกรรมในอนาคต 1 ในนั้นมีเรื่องพลาสติกชีวภาพ จะทำให้ลดการนำเข้าเม็ดพลาสติกจากต่างประเทศได้หลายพันล้านบาทต่อปี โครงการนี้จึงนับเป็นจุดเริ่มต้นในการสร้างความตระหนักและความรับผิดชอบต่อสิ่งแวดล้อม สังคม และประเทศชาติ<br />
<br />
ทั้งนี้ โครงการ “ไอเดียแจ๋ว” เป็นโครงการต่อเนื่องจากโครงการ “แจ๋วรักษ์โลก” ที่รณรงค์แยกขยะ โดยเฉพาะกล่องเครื่องดื่มที่นำมาผ่านกระบวนการคัดแยกและรีไซเคิลใหม่เป็นโต๊ะ-เก้าอี้ มอบให้นักเรียนโรงเรียนตำรวจตระเวนชายแดน และในครั้งนี้เป็นการนำเสนอนวัตกรรมใหม่ครั้งแรกของประเทศไทย โดยนำเสนอ “กล่องแจ๋ว” ซึ่งเป็นกล่องอาหารที่ผลิตจากข้าวโพด 100% ไม่มีส่วนผสมจากพลาสติก แต่มีคุณสมบัติเหมือนพลาสติกทุกประการ ใช้ใส่อาหารอุ่นร้อนได้ในอุณหภูมิไม่เกิน 80 องศาเซลเซียส โดยไม่มีพิษหรือสารปนเปื้อนที่ก่อให้เกิดโรคมะเร็ง และยังสามารถใช้ซ้ำได้ ที่สำคัญย่อยสลายได้เองตามธรรมชาติ<br />
สำหรับผู้สนใจซื้อ ได้ที่ห้างเอ็มโพเรี่ยม สยามพารากอน และเดอะมอลล์ทุกสาขา ราคากล่องละ 99 บาท เริ่มจำหน่ายตั้งแต่วันที่ 10 ก.ค.53 รายได้ทั้งหมดจากการจำหน่ายโดยไม่หักค่าใช้จ่าย จะนำขึ้นทูลเกล้าฯ ถวายสมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าจุฬาภรณ์วลัยลักษณ์ อัครราชกุมารี เพื่อนำไปช่วยเหลือผู้ป่วยโรคมะเร็งรพ.จุฬาภรณ์<br />
<br />
แหล่งที่มา : <a href="http://www.most.go.th/main/index.php/organization-news/1891--qq--100-.html">http://www.most.go.th/main/index.php/organization-news/1891--qq--100-.html</a>นางสาวสมพร ทำประเสริฐhttp://www.blogger.com/profile/07116300437793994781noreply@blogger.com0tag:blogger.com,1999:blog-2613019797140417166.post-72111167850868502672011-02-17T18:33:00.003+07:002011-02-21T13:21:16.806+07:00บุกงาน"CES 2010" นวัตกรรม"ไอที"รับปีใหม่<div align="center"><strong><span style="color: #6aa84f;">บุกงาน"CES 2010" นวัตกรรม"ไอที"รับปีใหม่</span></strong></div><div align="center"></div><div> <strong> มหกรรมงานแสดงสินค้าอิเล็กทรอนิกส์ยักษ์ใหญ่ <span style="color: #38761d;">"CES 2010"</span> ในนครลาสเวกัส สหรัฐอเมริกา เพิ่งปิดฉากผ่านพ้นไปสดๆ ร้อนๆ เมื่อ 2 วันก่อน</strong></div><div><strong> ตามธรรมเนียมของทุกปีภายในงานนี้บรรดาบริษัทไอทีชั้นนำจะขนต้นแบบ รวมถึงนวัตกรรมไฮเทคใหม่ล่าสุดมาอวดศักยภาพให้ชาวโลกได้ยลโฉมก่อนใครเพื่อน ซึ่งเทคโนโลยีเด่นในมหกรรม <span style="color: #38761d;">CES</span> ประจำปี ค.ศ.2010 หรือพ.ศ.2553 ที่โดดเด่นเตะตาผู้เข้าชมและผู้สื่อข่าวสายไอทีมากที่สุด มีดังนี้!</strong><br />
<strong><br />
</strong><br />
<div align="center"><strong><img border="0" src="http://men.mthai.com/uploads/manager/Oodtraman7/ces_2010_1.jpg" title="ces_2010_1.jpg" /></strong></div><strong> </strong></div><div align="left"><strong><span style="color: green;"> 1.สเลต พีซี (Slate PC) </span>โน้ตบุ๊กขนาดพกพา สั่งงานผ่านจอทัชสกรีน รุ่น <span style="color: purple;">"สเลต พีซี"</span> ของ <span style="color: #38761d;">บริษัทเอชพี</span> ซึ่งทำงานภายใต้ระบบปฏิบัติการวินโดวส์ 7 ของบริษัทไมโครซอฟท์ เป็นทั้งโน้ตบุ๊ก เครื่องมือท่องอินเตอร์เน็ต และเครื่องอ่านหนังสือดิจิตอล <span style="color: #38761d;">(อีบุ๊ก)</span> <span style="color: #993300;"><span style="color: #0b5394;">นายสตีฟ บัลเมอร์ ผู้บริหาร</span></span><span style="color: #3d85c6;">ไมโครซอฟท์</span> เชื่อมั่นในประสิทธิภาพของเครื่องรุ่นนี้มากถึงขนาดลงทุนเปิดแถลงข่าวและสาธิตวิธีใช้งานด้วยตัวเองในงาน <span style="color: blue;">CES</span></strong></div><div align="left"><strong><br />
</strong></div><div align="center"><strong><img border="0" src="http://men.mthai.com/uploads/manager/Oodtraman7/ces_2010_2.jpg" title="ces_2010_2.jpg" /></strong></div><div align="left" style="text-align: center;"><strong></strong></div><div align="left"><div style="text-align: center;"><strong></strong></div><strong> </strong></div><div align="left"><strong><span style="color: green;"> 2.หนังสือดิจิตอล</span> <span style="color: #38761d;">บริษัทซัมซุงเผย</span> โฉมเครื่องอ่านหนังสือดิจิตอล <span style="color: #38761d;">(อีบุ๊ก)</span> รุ่น <span style="color: purple;">"อี 6" (E6)</span> ขนาดกระชับมือ</strong></div><div align="left"><strong><br />
</strong><br />
<strong><span style="color: green;"> 3.ดูหนัง 3 มิติ</span> เครื่องเล่นแผ่น <span style="color: #38761d;">"บลูเรย์"</span> แบบ 3 มิติของ <span style="color: #38761d;">ค่ายพานาโซนิก</span> วางคู่กับแว่นชมภาพยนตร์ 3 มิติ รุ่น <span style="color: purple;">"แอ๊กทีฟ ชัตเตอร์ 3ดี" (Active Shutter 3D)</span></strong></div><div align="left"><strong><br />
</strong><br />
<strong><span style="color: green;"> 4.ทีวีบางเฉียบ</span> โทรทัศน์จอภาพบางเฉียบ รุ่น <span style="color: purple;">"แอลอีดี 900" (LED 900)</span> พัฒนาโดย <span style="color: #38761d;">บริษัทซัมซุง</span> ตัวเครื่องและจอหนาไม่ถึง 3 นิ้ว หรือหนาพอๆ กับแท่งดินสอเท่านั้น และมีระบบแสดงผลเปลี่ยนภาพ 2 มิติ ให้กลายเป็น 3 มิติ</strong></div><div align="left"><strong><br />
</strong><br />
<strong><span style="color: green;"> 5.ถ่ายใต้น้ำ</span> ชุดกล้องดิจิตอลสำหรับถ่ายภาพใต้น้ำของ <span style="color: #38761d;">บริษัทลิควิด อิมเมจ</span> เหนือชั้นกว่ากล้องใต้น้ำอื่นๆ ตรงที่สวมติดกับศีรษะได้อย่างมั่นคงและบันทึกภาพด้วยค่าความละเอียดสูง <span style="color: purple;">(HD)</span></strong></div><div align="left"><strong><br />
</strong><br />
<strong><span style="color: green;"> 6.จักรยานไฟฟ้า</span> <span style="color: #38761d;">บริษัท ซันโย</span> ทวีปอเมริกาเหนือ เปิดตัวจักรยาน รุ่น <span style="color: purple;">"เอเนลลูป" (Eneloop)</span> คนขี่ไม่ต้องออกแรงถีบเพราะเคลื่อนที่ได้ด้วยมอเตอร์ไฟฟ้า ถ้าไฟหมดก็สามารถเปลี่ยนกลับมาถีบตามปกติ เพื่อประจุไฟฟ้าใหม่ ซันโยขนานนามผลิตภัณฑ์นี้ว่า <span style="color: #3366ff;">"จักรยานลูกผสม" หรือ "ซินเนอร์เจติก ไฮบริด ไบซิเคิล"</span></strong></div><div align="left"><strong><br />
</strong><br />
<strong><span style="color: green;"> 7.เครื่องชาร์จสารพัดประโยชน์</span> เครื่องชาร์จไฟฟ้าพกพา รุ่น <span style="color: purple;">"ออล อิน วัน"</span> ของ <span style="color: #38761d;">บริษัท เอเนอร์ไจเซอร์</span> ไว้ใช้สำหรับจัมพ์ หรือพ่วงสายแบตเตอรี่รถยนต์เวลาไฟหมด และยังใช้เป็นเครื่องสูบลมยาง รวมถึงประจุไฟให้กับอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ขนาดเล็กอื่นๆ</strong></div><div align="left"><strong><br />
</strong><br />
<strong><span style="color: green;"> 8."จอ" งอได้</span> เครื่องอ่านหนังสือดิจิตอล รุ่น <span style="color: purple;">"สคิฟฟ์ รีดเดอร์" (Skiff Reader)</span> ออกแบบโดย <span style="color: #38761d;">บริษัทแอลจี ดิสเพลย์</span> จอขาวดำดัดโค้งงอพับเก็บได้ใกล้เคียงกับสิ่งพิมพ์กระดาษทั่วๆ ไป แสดงภาพด้วยค่าความละเอียด 1,200x1,600 พิกเซล</strong></div><div align="left"><strong><br />
</strong><br />
<strong><span style="color: green;"> 9."เน็ต" ทีวี</span> ลักษณะหน้าตาโปรแกรม <span style="color: purple;">"คอนเน็กต์ ทีวี" (Connected TV)</span> พัฒนาโดย <span style="color: #38761d;">บริษัทยาฮู!</span> เจ้าของเว็บไซต์สืบค้นข้อมูลอันดับ 2 ของโลก ช่วยเชื่อมต่อโทรทัศน์เข้ากับเครือข่ายอินเตอร์เน็ตอย่างง่ายดาย</strong></div><div align="left"><strong><br />
</strong><br />
<strong><span style="color: green;"> 10."พีซี" ถอดได้</span> <span style="color: #38761d;">บริษัท เลอโนโว</span> ประเทศจีน เกาะกระแสแท็บเล็ตพีซี หรือคอมพิวเตอร์พกพาขนาดเล็ก ออกผลิตภัณฑ์แท็บเล็ตพีซีในตระกูลเครื่อง <span style="color: purple;">"ไอเดียแพด ยู 1 ไฮบริด"</span> ติดตั้งจอทัชสกรีนขนาด 11.6 นิ้ว ซึ่งดึงออกมาจากตัวเครื่องเพื่อใช้งานโดยอิสระได้เลย ส่วนหน่วยประมวลผลใช้ของอินเทล คอร์ทูดูโอและระบบปฏิบัติการวินโดวส์ 7</strong></div><div align="left"><strong><br />
</strong><br />
<strong><span style="color: green;"> 11.เครื่องวัดพลังงาน</span> เครื่องวัดระดับการสิ้นเปลืองและใช้พลังงานไฟฟ้าภายในบ้าน รุ่น<span style="color: purple;"> "ไวร์เลส แอพพลายแอนซ์ แมเนเจอร์"</span> คิดค้นโดย<span style="color: red;"> </span><span style="color: #38761d;">บริษัทโอเรกอน ไซน์ทิฟิก</span> สหรัฐอเมริกา และบอกได้ด้วยว่าจุดไหนกินไฟเท่าไหร่จากสูงสุดถึงล่างสุด</strong></div><div align="left"><strong><br />
</strong><br />
<strong><span style="color: green;"> 12.คอมพ์มือถือ</span> <span style="color: purple;">"แดช โมบายล์"</span> คอมพิวเตอร์มือถือของ<span style="color: red;"> </span><span style="color: #38761d;">โซนี่</span> ใช้ต่อเข้าเครื่อข่ายอินเตอร์เน็ตทุกที่ทุกเวลา ทั้งยังใช้เป็นเครื่องเล่นไฟล์มัลติมีเดียและอ่านหนังสือดิจิตอลได้ด้วย</strong></div><div align="left"><strong><br />
</strong><br />
<strong><span style="color: green;"> 13.วิดีโอ 3 มิติ</span> ในเมื่อกระแสทีวี 3 มิติมาแรงในปีนี้ <span style="color: red;"><span style="color: #38761d;">บริษัทพานาโซนิก</span> </span>จึงผลิต <span style="color: purple;">"กล้องถ่ายวิดีโอระบบ 3 มิติ"</span> ขึ้นมาตอบสนองความต้องการของลูกค้าผู้คลั่งใคล้การชมภาพ 3 มิติโดยเฉพาะ</strong></div><div align="left"><strong><br />
</strong><br />
<strong><span style="color: green;"> 14.กล้องไว-ไฟ</span> <span style="color: purple;">กล้องถ่ายรูปดิจิตอล DSC-G3</span> ของ <span style="color: #38761d;">บริษัทโซนี่</span> มีเลนส์ซูม 4 เท่า จอแอลซีดีสั่งงานด้วยการสัมผัส และระบบจับภาพใบหน้าคมชัดอัตโนมัติ แต่ความพิเศษอยู่ตรงที่มาพร้อมกับระบบเชื่อมต่อกับโครงข่ายอินเตอร์เน็ตไร้สาย หรือ <span style="color: #0b5394;">"ไว-ไฟ"</span> ในตัว ช่วยให้การอัพโหลดภาพขึ้นเว็บไซต์ทำได้รวดเร็ว ราคาราว 17,500 บาท</strong><br />
<br />
แหล่งที่มา : <a href="http://men.mthai.com/technology/content/2993"><span style="color: #38761d;">http://men.mthai.com/technology/content/2993</span></a></div>นางสาวสมพร ทำประเสริฐhttp://www.blogger.com/profile/07116300437793994781noreply@blogger.com0tag:blogger.com,1999:blog-2613019797140417166.post-66296332430082367102011-01-06T19:08:00.000+07:002011-01-06T19:53:37.682+07:00สวัสดีปีใหม่ 2554<div style="text-align: center;"><span style="background-color: white;">สวัสดีปีใหม่ 2554 </span></div><div style="text-align: center;"><div style="border-bottom: medium none; border-left: medium none; border-right: medium none; border-top: medium none;"><a href="http://3.bp.blogspot.com/_gVzbQu9fNWk/TSW1e3DFO_I/AAAAAAAAAAc/knFmREY3xVU/s1600/1228329121.gif" imageanchor="1" style="clear: left; cssfloat: left; float: left; margin-bottom: 1em; margin-right: 1em;"><span style="background-color: white;"><img border="0" height="100" n4="true" src="http://3.bp.blogspot.com/_gVzbQu9fNWk/TSW1e3DFO_I/AAAAAAAAAAc/knFmREY3xVU/s200/1228329121.gif" width="200" /></span></a><span style="background-color: white; color: #a64d79; font-family: Arial, Helvetica, sans-serif; font-size: large;">สวัสดี ปีใหม่ ขอให้สุข <br />
หมดสิ้นทุกข์ กายจิต มิผิดผัน <br />
อายุมั่น ขวัญยืน สี่หมื่นวัน <br />
มีผิวพรรณ ผ่องนวล เย้ายวนชม</span></div></div><div style="text-align: center;"><span style="background-color: white;"><br />
</span></div><div style="text-align: center;"><div style="border-bottom: medium none; border-left: medium none; border-right: medium none; border-top: medium none;"><a href="http://t1.gstatic.com/images?q=tbn:ANd9GcShJwqPBqzvC8AwQOmvl8Yb2FZuUHzmfoNSr96ft5RABPV3JHLzeQ" imageanchor="1" style="clear: left; cssfloat: left; float: left; margin-bottom: 1em; margin-right: 1em;"><span style="background-color: white;"><img border="0" class="rg_hi" data-height="238" data-width="212" height="200" id="rg_hi" src="http://t1.gstatic.com/images?q=tbn:ANd9GcShJwqPBqzvC8AwQOmvl8Yb2FZuUHzmfoNSr96ft5RABPV3JHLzeQ" width="178" /></span></a><a href="http://lh4.ggpht.com/_gVzbQu9fNWk/TSWv-mHkyTI/AAAAAAAAAAM/YYckbuwFn2Q/s1600/1_210.jpg" imageanchor="1" style="clear: right; cssfloat: right; float: right; margin-bottom: 1em; margin-left: 1em;"></a><strong><span style="background-color: white; color: #38761d; font-size: large;">ขอลาที ปีเก่า แสนเศร้าโศก <br />
ความอับโชค ที่มา กับราศี <br />
อีกโพยภัย ไข้ทำ ประจำมี <br />
ในชีวี จงสลาย มลายพลัน</span></strong></div></div><div align="right" style="border-bottom: medium none; border-left: medium none; border-right: medium none; border-top: medium none; text-align: center;"><span style="background-color: white;"><br />
</span></div><div align="right" style="border-bottom: medium none; border-left: medium none; border-right: medium none; border-top: medium none; text-align: center;"><span style="color: purple;"><span style="background-color: white; color: purple;"></span></span></div><div style="border-bottom: medium none; border-left: medium none; border-right: medium none; border-top: medium none; text-align: center;"><span style="background-color: white;"><br />
</span></div><div style="border-bottom: medium none; border-left: medium none; border-right: medium none; border-top: medium none; margin-left: 1em; margin-right: 1em;"><span style="background-color: white;"><br />
</span></div><div style="border-bottom: medium none; border-left: medium none; border-right: medium none; border-top: medium none;"><span style="background-color: white;"><br />
</span></div><div style="border-bottom: medium none; border-left: medium none; border-right: medium none; border-top: medium none; text-align: center;"><div style="border-bottom: medium none; border-left: medium none; border-right: medium none; border-top: medium none;"><span style="color: purple;"><span style="background-color: white; color: purple;"></span></span></div></div><div style="text-align: center;"><div style="border-bottom: medium none; border-left: medium none; border-right: medium none; border-top: medium none;"><span style="background-color: white;"><br />
</span></div></div><div class="separator" style="border-bottom: medium none; border-left: medium none; border-right: medium none; border-top: medium none; clear: both; text-align: left;"><a href="http://1.bp.blogspot.com/_gVzbQu9fNWk/TSWzG8DoViI/AAAAAAAAAAY/FKbpVDYSDVE/s1600/46a2335c16008.gif" imageanchor="1" style="margin-left: 1em; margin-right: 1em;"><span style="background-color: white;"><img border="0" n4="true" src="http://1.bp.blogspot.com/_gVzbQu9fNWk/TSWzG8DoViI/AAAAAAAAAAY/FKbpVDYSDVE/s1600/46a2335c16008.gif" /></span></a><span style="background-color: white;"> </span><a href="http://4.bp.blogspot.com/_gVzbQu9fNWk/TSWyeUjsL_I/AAAAAAAAAAQ/WpUNCOHsQvg/s1600/46bdca990b178.gif" imageanchor="1" style="margin-left: 1em; margin-right: 1em;"><span style="background-color: white;"><img border="0" n4="true" src="http://4.bp.blogspot.com/_gVzbQu9fNWk/TSWyeUjsL_I/AAAAAAAAAAQ/WpUNCOHsQvg/s1600/46bdca990b178.gif" /></span></a><span style="background-color: white;"> </span><a href="http://1.bp.blogspot.com/_gVzbQu9fNWk/TSWy0z138QI/AAAAAAAAAAU/1JQu8o2yr6w/s1600/468f23202a004.gif" imageanchor="1" style="margin-left: 1em; margin-right: 1em;"><span style="background-color: white;"></span></a><a href="http://1.bp.blogspot.com/_gVzbQu9fNWk/TSWy0z138QI/AAAAAAAAAAU/1JQu8o2yr6w/s1600/468f23202a004.gif" imageanchor="1" style="margin-left: 1em; margin-right: 1em;"><img border="0" n4="true" src="http://1.bp.blogspot.com/_gVzbQu9fNWk/TSWy0z138QI/AAAAAAAAAAU/1JQu8o2yr6w/s1600/468f23202a004.gif" /></a></div><div style="border-bottom: medium none; border-left: medium none; border-right: medium none; border-top: medium none; clear: both; text-align: right;"><div style="border-bottom: medium none; border-left: medium none; border-right: medium none; border-top: medium none;"><span style="background-color: white;"> </span></div></div><div style="border-bottom: medium none; border-left: medium none; border-right: medium none; border-top: medium none; clear: both; text-align: left;"><div style="border-bottom: medium none; border-left: medium none; border-right: medium none; border-top: medium none;"><span style="background-color: white;"> </span></div></div><div class="separator" style="border-bottom: medium none; border-left: medium none; border-right: medium none; border-top: medium none; clear: both; text-align: center;"><a href="http://4.bp.blogspot.com/_gVzbQu9fNWk/TSW3q1IW50I/AAAAAAAAAAg/qPE71hyG2zM/s1600/55871945eu8.jpg" imageanchor="1" style="margin-left: 1em; margin-right: 1em;"><span style="background-color: white;"><img border="0" height="149" n4="true" src="http://4.bp.blogspot.com/_gVzbQu9fNWk/TSW3q1IW50I/AAAAAAAAAAg/qPE71hyG2zM/s200/55871945eu8.jpg" width="200" /></span></a></div>นางสาวสมพร ทำประเสริฐhttp://www.blogger.com/profile/07116300437793994781noreply@blogger.com1